Facebook Ads คืออะไร? เครื่องมือการตลาด และฟีเจอร์ที่น่าสนใจ

By creatix
September 4, 2024
339 Views
Facebook Ads คืออะไร? เครื่องมือการตลาด

Facebook Ads คือเครื่องมือโฆษณาออนไลน์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook ที่ช่วยให้ธุรกิจและแบรนด์ต่างๆ สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยจำนวนผู้ใช้งานกว่า 2,000 ล้านคนทั่วโลก Facebook Ads จึงเป็นช่องทางการตลาดออนไลน์ที่นักการตลาดจำนวนมากเลือกใช้เพื่อเพิ่มการรับรู้แบรนด์ สร้างการมีส่วนร่วม และเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของตน

หลักการทำงานของ Facebook Ads คือการให้ผู้ลงโฆษณาสามารถสร้างโฆษณาในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ วิดีโอ หรือ Carousel โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำตามลักษณะทางประชากรศาสตร์ ความสนใจ พฤติกรรมการใช้งาน และอื่นๆ จากนั้น Facebook จะนำโฆษณาไปแสดงผลบนหน้า News Feed หรือตำแหน่งอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าที่มีแนวโน้มสนใจในสินค้าหรือบริการของธุรกิจได้มากขึ้น

6 รูปแบบโฆษณาบน Facebook Ads

6 รูปแบบโฆษณาบน Facebook Ads

นอกจากการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำแล้ว Facebook Ads ยังมีรูปแบบโฆษณาที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Single Image Ads, Video Ads, Carousel Ads, Collection Ads, Lead Ads และ Dynamic Ads ที่ออกแบบมาเพื่อดึงดูดความสนใจและสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงมีเครื่องมือวัดผลและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ที่ช่วยให้นักการตลาดสามารถติดตามผลการทำงานของโฆษณา ปรับแต่งกลยุทธ์ และเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุนโฆษณาได้แบบเรียลไทม์

 

Image Ads (โฆษณาแบบรูปภาพ)

  1. Image Ads (โฆษณาแบบรูปภาพ)

เป็นรูปแบบโฆษณาพื้นฐานที่ใช้รูปภาพสินค้า บริการ หรือแบรนด์ เพื่อดึงดูดความสนใจและสื่อสารข้อความหลักของแคมเปญ โดยสามารถเพิ่มข้อความ ปุ่มกระตุ้นการกระทำ (Call-to-Action) และลิงก์ไปยังหน้าปลายทางได้ เหมาะสำหรับการสร้างการรับรู้แบรนด์หรือโปรโมทสินค้าใหม่

 

Video Ads (โฆษณาแบบวิดีโอ)

  1. Video Ads (โฆษณาแบบวิดีโอ)

โฆษณาในรูปแบบวิดีโอที่ช่วยเล่าเรื่องราวและสาธิตการใช้งานสินค้าหรือบริการได้น่าสนใจยิ่งขึ้น สามารถสร้างความผูกพันกับกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่าโฆษณารูปภาพ เหมาะสำหรับการสร้างการมีส่วนร่วมและกระตุ้นให้เกิดการกระทำตามเป้าหมาย เช่น การสมัครทดลองใช้บริการหรือการซื้อสินค้า

 

Carousel Ads (โฆษณาแบบภาพเลื่อน)

  1. Carousel Ads (โฆษณาแบบภาพเลื่อน)

เป็นโฆษณาที่รวมรูปภาพหรือวิดีโอได้มากกว่า 1 ชิ้นในหน้าเดียว โดยผู้ชมสามารถเลื่อนดูได้ตามลำดับ เหมาะสำหรับการนำเสนอสินค้าหรือบริการที่หลากหลาย การเปรียบเทียบฟีเจอร์ หรือการเล่าเรื่องราวแบรนด์ผ่านภาพหลายๆ มุม ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมและโอกาสในการคลิกผ่านไปยังหน้าปลายทางได้มากขึ้น

 

Collection Ads (โฆษณาแบบคอลเลกชัน)

  1. Collection Ads (โฆษณาแบบคอลเลกชัน)

เป็นโฆษณาที่นำเสนอสินค้าหลายชิ้นในรูปแบบแกลเลอรี่พร้อมซื้อ โดยประกอบด้วยวิดีโอหรือรูปภาพหลัก และสินค้าแนะนำที่เกี่ยวข้อง 4 รายการ เมื่อคลิกที่สินค้าจะสามารถซื้อได้ทันทีโดยไม่ต้องออกจากแอป Facebook ช่วยเพิ่มประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ราบรื่นและเพิ่มโอกาสในการสั่งซื้อสินค้ามากขึ้น

 

Lead Ads (โฆษณาแบบสร้างลีดส์)

  1. Lead Ads (โฆษณาแบบสร้างลีดส์)

โฆษณารูปแบบนี้ออกแบบมาเพื่อเก็บข้อมูลผู้สนใจสินค้าหรือบริการ โดยเมื่อคลิกที่โฆษณา ระบบจะแสดงแบบฟอร์มให้กรอกข้อมูล เช่น ชื่อ อีเมล หรือเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งจะถูกส่งตรงมายังเจ้าของแบรนด์ นับเป็นการสร้าง Leads ที่มีคุณภาพและเพิ่มโอกาสในการปิดการขายในอนาคต

 

Dynamic Ads (โฆษณาไดนามิก)

  1. Dynamic Ads (โฆษณาไดนามิก)

เป็นโฆษณาที่ระบบ Facebook จะแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องให้อัตโนมัติ ตามพฤติกรรมการเข้าชมเว็บไซต์หรือการซื้อสินค้าของผู้ใช้แต่ละคน โดยอาศัยข้อมูลจาก Facebook Pixel ที่ติดตั้งในเว็บไซต์ E-commerce ช่วยเพิ่มโอกาสในการซื้อซ้ำหรือการซื้อสินค้าที่คล้ายกันได้ตรงใจมากยิ่งขึ้น

 

กำหนดงบประมาณและการตั้งเป้าหมายโฆษณา Facebook Ads

อีกหนึ่งจุดเด่นของ Facebook Ads คือความยืดหยุ่นในการกำหนดงบประมาณและการตั้งเป้าหมายโฆษณา ผู้ลงโฆษณาสามารถกำหนดงบประมาณรายวันหรือตลอดระยะเวลาแคมเปญโฆษณา พร้อมทั้งเลือกเป้าหมายที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness), การสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement), การเพิ่มจำนวน Leads, การเพิ่มยอดขายจากเว็บไซต์ (Conversions) หรือเป้าหมายอื่นๆ ที่หลากหลาย โดยระบบจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแสดงผลโฆษณาให้ตรงและคุ้มค่ากับเป้าหมายที่เลือกมากที่สุด

  1. Awareness (การสร้างการรับรู้)

  • Brand Awareness: เพื่อเพิ่มการรับรู้และจดจำแบรนด์ในวงกว้าง
  • Reach: เพื่อเข้าถึงผู้คนจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
  1. Consideration (การสร้างการพิจารณา)

  • Traffic: เพื่อเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
  • Engagement: เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมกับโพสต์ เพจ หรืออีเวนต์
  • App Installs: เพื่อสนับสนุนให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน
  • Video Views: เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ชมและการรับชมวิดีโอให้มากขึ้น
  • Lead Generation: เพื่อเก็บข้อมูลผู้สนใจสินค้าหรือบริการ ผ่านแบบฟอร์มลีดส์
  • Messages: เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ผ่านทางแชทในแอป Messenger
  1. Conversion (การสร้างการแปลงเป้าหมาย)

  • Conversions: เพื่อเพิ่มการกระทำที่มีคุณค่าบนเว็บไซต์หรือแอป เช่น การซื้อสินค้า การลงทะเบียน ฯลฯ
  • Catalog Sales: เพื่อแสดงสินค้าจากแคตตาล็อกให้ตรงกับความสนใจของลูกค้า และเพิ่มยอดขาย
  • Store Traffic: เพื่อส่งเสริมให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าที่ร้านค้าหรือธุรกิจในพื้นที่

 

Facebook ads

วิธีเริ่มใช้งาน Facebook Ads

  1. สร้างบัญชีโฆษณา (Ad Account)

  • ไปที่ Ads Manager ของ Facebook
  • คลิกที่ “สร้างบัญชีโฆษณา” และเลือกวิธีการชำระเงิน
  • ตั้งค่าเขตเวลา สกุลเงิน และเวลาในการเรียกเก็บเงินของบัญชี
  1. เชื่อมต่อเพจ Facebook หรือ Instagram กับบัญชีโฆษณา

  • คลิกที่ “เพิ่มเพจ” ในหน้า Ads Manager
  • เลือกเพจหรืออินสตาแกรมที่ต้องการเชื่อมต่อกับบัญชีโฆษณา
  • ยืนยันสิทธิ์ในการจัดการโฆษณาให้กับบัญชีนั้นๆ
  1. ติดตั้ง Facebook Pixel (ถ้าต้องการ)

  • สร้าง Pixel ในหน้า Events Manager
  • คัดลอกโค้ด Pixel และติดตั้งในหน้าเว็บไซต์ที่ต้องการติดตามผล
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่า Pixel ทำงานอย่างถูกต้อง
  1. สร้างแคมเปญโฆษณาใหม่

  • ไปที่ Ads Manager แล้วคลิก “สร้าง” เพื่อสร้างแคมเปญใหม่
  • เลือกวัตถุประสงค์ของแคมเปญ เช่น การรับรู้แบรนด์ การเข้าชมเว็บไซต์ การสร้างลีดส์ ฯลฯ
  • ตั้งชื่อแคมเปญและกำหนดงบประมาณ (รายวันหรือตลอดการใช้งาน)
  1. สร้างกลุ่มโฆษณา (Ad Set)

  • กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเข้าถึง ตามข้อมูลประชากร ความสนใจ พฤติกรรม ฯลฯ
  • เลือกตำแหน่งการวางโฆษณา เช่น Facebook, Instagram, Audience Network
  • ตั้งงบประมาณและกำหนดการประมูล (Bid) สำหรับโฆษณาชุดนี้
  1. สร้างโฆษณา (Ad)

  • เลือกรูปแบบโฆษณาที่ต้องการ เช่น รูปภาพ วิดีโอ Carousel ฯลฯ
  • อัปโหลดสื่อโฆษณา พร้อมเขียนข้อความโฆษณาให้น่าสนใจ
  • เพิ่มลิงก์ไปยังหน้าปลายทางที่ต้องการ พร้อมใส่ปุ่มกระตุ้นให้คลิก (CTA)
  • ทดสอบและตรวจทานให้แน่ใจว่าทุกอย่างถูกต้องก่อนเผยแพร่
  1. เผยแพร่โฆษณาและติดตามผลลัพธ์

  • คลิก “เผยแพร่” เพื่อเริ่มใช้งานแคมเปญโฆษณา
  • ติดตามผลลัพธ์ของโฆษณาในเชิงลึกผ่านแถบ “รายงาน” ของ Ads Manager
  • ปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดียิ่งขึ้น

 

วิธีเริ่มใช้งาน Facebook Ads

 

วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกก่อนลงโฆษณากับ Facebook Ads

แม้ว่า Facebook Ads จะเป็นเครื่องมือโฆษณาที่มีประสิทธิภาพสูง แต่การใช้งานให้ประสบความสำเร็จนั้น ผู้ลงโฆษณาควรมีความเข้าใจในหลักการทำงานและกลยุทธ์การตั้งค่าโฆษณาที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบโฆษณาที่สร้างสรรค์และดึงดูดใจ การเลือกรูปแบบโฆษณาที่เหมาะสมกับเป้าหมาย การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำ การทดสอบและปรับปรุงประสิทธิภาพโฆษณาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำมาใช้ในการปรับปรุงแคมเปญโฆษณาครั้งต่อไป

Facebook Ads เป็นเครื่องมือทางการตลาดออนไลน์ที่ทรงพลังและได้รับความนิยมอย่างสูง ด้วยฐานผู้ใช้งานมหาศาล ความสามารถในการกำหนดเป้าหมายที่แม่นยำ และรูปแบบโฆษณาที่หลากหลาย จึงช่วยให้ธุรกิจและแบรนด์ต่างๆ สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีแนวโน้มสนใจในสินค้าหรือบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถวัดผลและปรับปรุงกลยุทธ์ให้เหมาะสมได้ตลอดเวลา ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งช่องทางการตลาดที่ธุรกิจออนไลน์ไม่ควรมองข้าม หากต้องการเติบโตและประสบความสำเร็จท่ามกลางการแข่งขันที่สูงในปัจจุบัน

cross