Google Search Console คืออะไร? คู่มือการใช้งานสำหรับผู้ที่สนใจ SEO

By creatix
October 28, 2024
95 Views

ทำการตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับผู้ที่สนใจ SEO และการสร้างสรรค์เนื้อหา Google Search Console เป็นเครื่องมือที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยเครื่องมือนี้ คุณสามารถติดตามประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณในผลการค้นหาของ Google ซึ่งช่วยให้เข้าใจและปรับปรุงอันดับเว็บไซต์ได้ดียิ่งขึ้น บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ Google Search Console ว่ามีประโยชน์อย่างไร และวิธีการใช้เครื่องมือนี้เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณเติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

Google Search Console คืออะไร?

Google Search Console คืออะไร?

Google Search Console หรือเรียกย่อว่า GSC เป็นเครื่องมือฟรีจาก Google ที่ช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์สามารถตรวจสอบสถานะการจัดอันดับและประสิทธิภาพในหน้าผลการค้นหา (SERP) ของ Google เครื่องมือนี้มีการให้ข้อมูลและคำแนะนำเพื่อปรับปรุง SEO และตรวจสอบว่าหน้าเว็บไซต์ของคุณทำงานได้ดีหรือไม่ในแง่ของการค้นหา นอกจากนี้ GSC ยังช่วยให้คุณทราบปัญหาที่อาจจะส่งผลต่อการจัดอันดับ เช่น ลิงก์เสีย (Broken Links) หรือปัญหาด้านการทำ Mobile Usability ของหน้าเว็บไซต์

ประโยชน์ของ Google Search Console

การใช้งาน Google Search Console ให้ประโยชน์หลายประการ ดังนี้:

  1. การติดตามและตรวจสอบประสิทธิภาพ SEO: สามารถติดตามคำค้นหาที่นำผู้เข้าชมมายังเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงจำนวนคลิกและการแสดงผล
  2. ตรวจสอบปัญหาด้านเทคนิคของเว็บไซต์: แสดงข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาด้านการทำงานของเว็บไซต์ เช่น ปัญหาโครงสร้าง, การจัดทำ Schema และการทำงานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
  3. เครื่องมือสำหรับปรับปรุงอันดับเว็บไซต์: ช่วยให้คุณเข้าใจว่าส่วนใดของเว็บไซต์ควรปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหา เช่นการทำ Backlink และการวิเคราะห์ CTR ของคำค้นหาต่าง ๆ

วิธีการตั้งค่า Google Search Console เบื้องต้น

 

ลงทะเบียนเว็บไซต์ของคุณใน Google Search Console 

ขั้นตอนที่ 1: ลงทะเบียนเว็บไซต์ของคุณใน Google Search Console 

การลงทะเบียนเว็บไซต์ใน Google Search Console เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ โดยคุณจะต้องทำการยืนยันความเป็นเจ้าของเว็บไซต์

  1. เข้าสู่ระบบ Google Search Console: เข้าไปที่ Google Search Console แล้วเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Google ของคุณ
  2. เพิ่มเว็บไซต์: คลิก “Add Property” แล้วเลือกวิธีการยืนยันความเป็นเจ้าของ เช่น การใช้ DNS, การอัปโหลดไฟล์ HTML, การใช้ Google Analytics หรือ Google Tag Manager
  3. ยืนยันเว็บไซต์: หลังจากเพิ่มและเลือกวิธีการยืนยันแล้ว ให้ดำเนินการตามขั้นตอนจนกว่าจะเสร็จสมบูรณ์

 

ส่ง Sitemap

ขั้นตอนที่ 2: ส่ง Sitemap

การส่ง Sitemap ช่วยให้ Google รู้ว่าหน้าใดในเว็บไซต์ของคุณควรที่จะทำการจัดทำดัชนี (Index) โดย Sitemap จะมีโครงสร้างที่บอกถึงหน้าทั้งหมดที่อยู่ในเว็บไซต์ของคุณและเป็นการเชิญชวนให้ Google มาเก็บข้อมูลของหน้าเว็บคุณอย่างรวดเร็ว

  1. เข้าสู่เมนู “Sitemaps”: ในหน้าหลักของ Google Search Console ให้ไปที่เมนู Sitemaps
  2. ส่ง Sitemap ของคุณ: ป้อน URL ของ Sitemap ของเว็บไซต์แล้วกด “Submit”

 

การใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ ใน Google Search Console

 

Performance Report

  1. รายงานประสิทธิภาพ (Performance Report)

ในเมนูนี้คุณจะพบกับรายงานเกี่ยวกับประสิทธิภาพของเว็บไซต์ เช่น จำนวนการแสดงผล, จำนวนคลิก, CTR (Click Through Rate) และอันดับเฉลี่ย โดยคุณสามารถวิเคราะห์ประสิทธิภาพของคำค้นหาที่สำคัญ เพื่อดูว่ามีการแสดงผลและการคลิกเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไร

การใช้ Performance Report ในการวิเคราะห์ SEO

  1. ค้นหาคำหลักที่ทำผลงานได้ดีที่สุด: ดูว่าเว็บไซต์ของคุณมีคำค้นหาใดที่มีการคลิกสูง ซึ่งสามารถปรับปรุงหรือลงทุนเพิ่มเติมในเนื้อหาที่มีคำค้นหาเหล่านี้เพื่อเพิ่มการเข้าชม
  2. ปรับปรุง CTR ของคำค้นหา: หากคำค้นหามีการแสดงผลสูงแต่คลิกน้อย ให้พิจารณาปรับปรุงเนื้อหาและ Meta Description เพื่อเพิ่ม CTR ของคำค้นหานั้น ๆ

 

Index Coverage Report

  1. การจัดทำดัชนี (Index Coverage Report)

Index Coverage Report จะแสดงผลว่าหน้าเว็บไซต์ของคุณทั้งหมดมีการจัดทำดัชนีอย่างถูกต้องหรือไม่ โดยจะแสดงผลแบ่งเป็นประเภท เช่น หน้าเว็บที่จัดทำดัชนีได้ปกติ, หน้าเว็บที่ถูกบล็อก และปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในการจัดทำดัชนี

การใช้ Index Coverage Report เพื่อแก้ปัญหา

  1. ตรวจสอบหน้าที่ถูกบล็อก: ดูว่า Google บล็อกหน้าของคุณหรือไม่ เช่นการใช้คำสั่ง noindex หรือtxt
  2. แก้ไขปัญหา Error ต่าง ๆ: แก้ไขหน้าที่แสดงปัญหา เช่น 404 Not Found หรือการใช้โครงสร้าง URL ที่ซับซ้อนเกินไป ซึ่งอาจทำให้การจัดทำดัชนีไม่ครบถ้วน

 

Mobile Usability

  1. การทำงานของหน้าในอุปกรณ์เคลื่อนที่ (Mobile Usability)

Mobile Usability ช่วยให้คุณตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของคุณใช้งานได้ดีบนอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือไม่ ซึ่งมีความสำคัญมาก เนื่องจาก Google ให้ความสำคัญกับการแสดงผลของเว็บไซต์บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ในการจัดอันดับ

การแก้ไขปัญหา Mobile Usability

  • ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่แสดงอยู่ในรายงาน เช่น ข้อความที่เล็กเกินไป ปุ่มที่อยู่ชิดกันมากไป และเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมสำหรับการแสดงผลในหน้าจอขนาดเล็ก

 

เคล็ดลับการใช้ Google Search Console เพื่อปรับปรุง SEO

การตรวจสอบและปรับปรุง Core Web Vitals

Google Search Console มีรายงานที่ช่วยตรวจสอบ Core Web Vitals ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีผลต่ออันดับใน Google เช่น LCP (Largest Contentful Paint), FID (First Input Delay), และ CLS (Cumulative Layout Shift) การปรับปรุง Core Web Vitals ทำให้เว็บไซต์ของคุณโหลดเร็วและประสบการณ์ผู้ใช้ดีขึ้น

การใช้ประโยชน์จาก URL Inspection Tool

URL Inspection Tool ช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบสถานะการจัดทำดัชนีของ URL แต่ละตัว รวมถึงการตรวจสอบปัญหาเกี่ยวกับ SEO เช่น ความเร็วในการโหลด และการตรวจสอบว่ามีการใช้คำสั่ง noindex หรือไม่

การส่งคำขอจัดทำดัชนี (Request Indexing)

หากคุณเพิ่มหน้าใหม่หรือมีการปรับปรุงเนื้อหาสำคัญ คุณสามารถใช้ฟีเจอร์ Request Indexing เพื่อแจ้งให้ Google ทราบและเข้ามาเก็บข้อมูลหน้าใหม่หรือหน้าอัปเดตให้รวดเร็วยิ่งขึ้น

สรุปการใช้ Google Search Console อย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้ Google Search Console ช่วยให้คุณติดตามและปรับปรุง SEO ของเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเริ่มจากการลงทะเบียนเว็บไซต์ใน Google Search Console ส่ง Sitemap และใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น Performance Report, Index Coverage Report และ Mobile Usability เพื่อตรวจสอบและปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงอันดับในการค้นหา การแก้ไขปัญหาด้านเทคนิค หรือการตรวจสอบความเหมาะสมของหน้าเว็บในอุปกรณ์เคลื่อนที่

หากคุณต้องการเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ให้มีอันดับที่สูงขึ้นในผลการค้นหา Google การใช้ Google Search Console เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

cross