ChatGPT คืออะไร ทำอะไรได้บ้าง พร้อมแนะวิธีใช้งาน

By creatix
September 2, 2024
139 Views

ChatGPT คือโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกสร้างขึ้นโดย OpenAI โดยมีพื้นฐานมาจากโมเดล GPT (Generative Pre-trained Transformer) ซึ่งเป็นโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกเทรนด้วยการเรียนรู้เชิงลึกจากข้อมูลขนาดใหญ่บนอินเทอร์เน็ต โดย ChatGPT นั้นสามารถเข้าใจและสร้างข้อความที่มีความสมเหตุสมผลจากข้อความที่ให้มา เช่น การตอบคำถาม การสนทนาในหลายเรื่อง เขียนเนื้อหา และอื่นๆ อีกมากมาย มันเป็นเครื่องมือที่มีความสามารถและยืดหยุ่นสูงสุดในการประมวลผลภาษาธรรมชาติในลักษณะที่ใช้งานได้ง่ายและมีประสิทธิภาพสูงในหลากหลายสถานการณ์ที่ต้องการการประมวลผลภาษาธรรมชาติอัตโนมัติ

 

วิธีใช้ ChatGPT เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

วิธีใช้ ChatGPT เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

ในยุคที่เทคโนโลยี AI กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ChatGPT คือหนึ่งในเครื่องมือ AI ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยความสามารถในการสนทนาและตอบคำถามได้อย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมทั้งให้ข้อมูลที่ครอบคลุมหลากหลายสาขา ทำให้ ChatGPT เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี หากรู้จักวิธีใช้งานที่ถูกต้องและเหมาะสม

  1. เข้าสู่เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของ ChatGPT ที่คุณต้องการใช้งาน เช่น openai.com หรือแอปของบริษัทอื่นๆ ที่มีการรองรับ API ของ ChatGPT
  2. ลงทะเบียนหรือล็อกอินเข้าสู่ระบบ โดยใช้อีเมลและรหัสผ่านของคุณ บางแพลตฟอร์มอาจมีการคิดค่าบริการรายเดือนหรือรายครั้งในการใช้งาน
  3. เริ่มต้นการสนทนากับ ChatGPT ด้วยการพิมพ์คำถามหรือข้อความที่คุณต้องการถามลงในช่องแชท จากนั้นกดส่งหรือ Enter เพื่อให้ ChatGPT ประมวลผลและตอบกลับ
  4. ChatGPT จะใช้เวลาสักครู่ในการประมวลผลและสร้างคำตอบที่เหมาะสม โดยอาจใช้เวลาประมาณ 30 วินาทีถึง 1 นาที ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของคำถามและปริมาณการใช้งานของระบบ
  5. เมื่อ ChatGPT ตอบกลับมา คุณสามารถอ่านคำตอบและประเมินดูว่าตรงกับสิ่งที่คุณต้องการหรือไม่ หากคำตอบยังไม่ชัดเจนหรือครอบคลุมพอ คุณสามารถถามเพิ่มเติมหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้
  6. หากคุณพึงพอใจกับคำตอบแล้ว คุณสามารถคัดลอกข้อความหรือบันทึกเป็นไฟล์เพื่อนำไปใช้งานต่อได้ทันที

Prompt คืออะไร

Prompt คือคำสั่งหรือข้อความที่ใช้ในการสื่อสารกับ ChatGPT เพื่อกำหนดให้ ChatGPT ตอบสนองหรือทำงานตามที่เราต้องการ การใช้ Prompt ที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้เราได้รับผลลัพธ์ที่ตรงใจและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยวิธีการใช้ Prompt กับ ChatGPT มีดังนี้

  1. ใช้ภาษาที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง - เขียน Prompt ด้วยข้อความที่สั้น กระชับ และตรงประเด็น โดยบอกให้ ChatGPT รู้ว่าเราต้องการให้ทำอะไร
  2. ให้รายละเอียดและบริบทที่จำเป็น - หากต้องการคำตอบที่ลึกซึ้งและตรงกับความต้องการ ควรให้ข้อมูลเพิ่มเติมหรือบริบทใน Prompt เช่น กลุ่มเป้าหมาย วัตถุประสงค์ ขอบเขตเนื้อหา หรือตัวอย่างที่ต้องการ เป็น
  3. แบ่ง Prompt เป็นส่วนๆ - หากมีหลายคำถามหรือต้องการให้ ChatGPT ทำหลายสิ่ง ให้แบ่งเป็น Prompt ย่อยๆ และใส่หมายเลขกำกับ เพื่อให้ ChatGPT ตอบได้ครบถ้วน
  4. ใช้ Prompt เพื่อกำหนดรูปแบบคำตอบ - หากต้องการให้ ChatGPT ตอบในรูปแบบที่เฉพาะเจาะจง สามารถใส่คำสั่งลงใน Prompt
  5. ปรับใช้ภาษาและโทนเสียงที่เหมาะสม - ChatGPT สามารถโต้ตอบด้วยภาษาและโทนเสียงที่หลากหลาย ดังนั้นเราสามารถกำหนดลักษณะการสื่อสารที่เราต้องการใน Prompt ได้
  6. ลองใช้ Prompt หลายๆ รูปแบบ - การทดลองเขียน Prompt ในลักษณะต่างๆ จะช่วยให้เราค้นพบรูปแบบการสั่งงานที่ได้ผลดีที่สุดสำหรับเรา

 

Prompt ChatGPT

 

ChatGPT ใช้ทำอะไรได้บ้าง?

  1. การสร้างสรรค์เนื้อหา (Content Creation)

ChatGPT สามารถช่วยเราสร้างเนื้อหาได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบทความ โพสต์โซเชียลมีเดีย บทสนทนา บทความโฆษณา หรือแม้แต่เรื่องสั้นและบทกวี โดย ChatGPT จะช่วยเรียบเรียงเนื้อหาให้มีความน่าสนใจ ครอบคลุมประเด็นสำคัญ และใช้ภาษาที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาและลดภาระในการเขียนเนื้อหาได้เป็นอย่างมาก

  1. การวิจัยและการค้นคว้าข้อมูล (Research and Information Gathering)

ด้วยความสามารถในการเข้าถึงและประมวลผลข้อมูลมหาศาลจากอินเทอร์เน็ต ChatGPT จึงเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับการค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลในหัวข้อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำรายงาน การเขียนบทความวิชาการ หรือการวิจัยตลาดเพื่อพัฒนาสินค้าใหม่ โดย ChatGPT สามารถสรุปใจความสำคัญ นำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่าย และให้แหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือประกอบการค้นคว้าได้อีกด้วย

  1. การแก้ปัญหาและการให้คำปรึกษา (Problem-solving and Advising)

ChatGPT สามารถเป็นที่ปรึกษาหรือผู้ช่วยในการแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยอาศัยความรู้และประสบการณ์จากการเรียนรู้ข้อมูลมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางเทคนิค ปัญหาการทำงาน หรือแม้แต่ปัญหาส่วนตัว ChatGPT สามารถให้คำแนะนำและแนวทางแก้ไขที่เป็นประโยชน์ รวมถึงกระตุ้นให้เรามองปัญหาในมุมมองใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยในการตัดสินใจและวางแผนแก้ปัญหาได้ดียิ่งขึ้น

  1. การฝึกทักษะภาษาและการเรียนรู้ (Language Practice and Learning)

สำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ChatGPT คือคู่หูที่ยอดเยี่ยมในการฝึกสนทนา เขียน และอ่าน โดยเราสามารถสนทนากับ ChatGPT ได้ในหัวข้อที่หลากหลาย ฝึกเขียนประโยคและย่อหน้าให้ ChatGPT ช่วยตรวจแก้ไข หรือให้ ChatGPT ช่วยอธิบายสำนวนหรือคำศัพท์ที่เราไม่เข้าใจ ซึ่งจะช่วยให้เราซึมซับและเรียนรู้ภาษาได้เร็วยิ่งขึ้น

  1. การแสดงความคิดสร้างสรรค์และไอเดีย (Idea Generation and Brainstorming)

หากเรารู้สึกติดขัดหรือขาดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งาน ChatGPT ก็พร้อมช่วยกระตุ้นความคิดและให้ไอเดียที่แปลกใหม่และหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการระดมสมองชื่อแบรนด์ การออกแบบผลิตภัณฑ์ การวางแผนกิจกรรมทางการตลาด หรือแม้แต่การแต่งเพลงและกลอน โดยเราสามารถปรับแต่งและต่อยอดไอเดียจาก ChatGPT ให้สอดคล้องกับบริบทและความต้องการของเราได้อย่างอิสระ

  1. การให้ความบันเทิงและการผ่อนคลาย (Entertainment and Relaxation)

นอกจากประโยชน์ด้านการทำงานและการเรียนรู้แล้ว ChatGPT ยังสามารถเป็นเพื่อนคู่คิดที่ให้ความบันเทิงและช่วยผ่อนคลายความเครียดได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการสนทนาเล่นๆ ในหัวข้อสนุกสนาน การเล่นเกมทายปัญหาหรือปริศนา การฟังเพลงหรือนิทานจากการแต่งของ ChatGPT หรือแม้แต่การระบายความรู้สึกและความกังวลใจให้ ChatGPT เป็นผู้รับฟัง ก็ล้วนเป็นวิธีที่จะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ChatGPT มีกี่ประเภท

ChatGPT มีให้เลือกใช้งาน 4 ประเภทด้วยกัน ได้แก่

  1. ChatGPT - เป็นแบบจำลองภาษาพื้นฐานที่ใช้สำหรับการสร้างข้อความตอบกลับในการสนทนาทั่วไป เหมาะสำหรับการพัฒนาแชทบอทเพื่อวัตถุประสงค์ทั่วไป เช่น บริการลูกค้า ให้คำแนะนำ หรือสร้างเนื้อหา
  2. ChatGPT-Instruct - เป็นแบบจำลองที่ได้รับการฝึกฝนเพิ่มเติมด้วยคำแนะนำเฉพาะด้าน เพื่อให้สามารถทำงานเฉพาะทางได้ดียิ่งขึ้น เช่น การให้คำปรึกษาทางการแพทย์ การแปลภาษา หรือการเขียนโค้ดคอมพิวเตอร์
  3. Whisper API Chat - เป็นแบบจำลองที่เน้นการรับข้อมูลที่เป็นเสียงหรือคำพูด แล้วแปลงเป็นข้อความสำหรับการสนทนา เหมาะสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันประเภท Voice Assistant หรือระบบ Chatbot ที่ใช้เสียงเป็นหลัก
  4. GPT-4 API - เป็นแบบจำลองล่าสุดที่มีความสามารถสูงที่สุด สามารถทำความเข้าใจและตอบสนองต่อข้อมูลประเภทรูปภาพได้ ตลอดจนมีความแม่นยำและครอบคลุมมากกว่ารุ่นก่อนๆ เหมาะสำหรับการพัฒนาแชทบอทหรือแอปพลิเคชันขั้นสูงที่ต้องการประสิทธิภาพการทำงานในระดับสูง

ChatGPT แบบฟรีและแบบเสียเงิน ต่างกันยังไง

ChatGPT แบบฟรีและแบบเสียเงิน ต่างกันยังไง

  1. ความสามารถและประสิทธิภาพ - แบบเสียเงินมักมีความสามารถสูงกว่า ทั้งด้านความเร็ว ความแม่นยำ และคุณภาพของผลลัพธ์
  2. ข้อจำกัดการใช้งาน - แบบฟรีมักมีข้อจำกัด เช่น จำนวนครั้งที่ใช้ได้ต่อวัน ความยาวของ Prompt และผลลัพธ์ ซึ่งแบบเสียเงินจะมีข้อจำกัดน้อยกว่าหรือไม่มีเลย
  3. ฟีเจอร์พิเศษ - แบบเสียเงินอาจมีฟีเจอร์เสริมที่แบบฟรีไม่มี เช่น การเชื่อมต่อ API การปรับแต่งแบบจำลอง หรือการสนับสนุนด้านเทคนิคที่ดีกว่า
  4. ความเสถียรและความพร้อมใช้งาน - แบบเสียเงินมักมีเสถียรภาพสูงกว่า สามารถรองรับผู้ใช้จำนวนมาก และมีความพร้อมใช้งานตลอดเวลา
  5. ค่าใช้จ่าย - แบบฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ส่วนแบบเสียเงินมีค่าบริการรายเดือนหรือตามปริมาณการใช้งาน ซึ่งเหมาะกับธุรกิจหรือองค์กรที่ต้องการใช้งานเป็นประจำและต้องการประสิทธิภาพสูงสุด

cross